รู้จักกับเซรั่ม ครีม เจล
• ครีม (Cream) จะประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำมันมากกว่าน้ำ สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี หากมีส่วนประกอบของ wax อยู่มากก็จะยิ่งทำให้ครีมมีเนื้อเหนียวเหนอะหนะ "ครีม" เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ถึงผิวธรรมดา• เจล (Gel) หรือ Oil-Free จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้โดยง่าย และรวดเร็วกว่าเนื้อครีม ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันอยู่เลยจึงไม่ระคายผิว และไม่มีตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิว "เจล" เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย
• เซรั่ม (Serum) จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักเช่นเดียวกับเจล แต่จะมีส่วนประกอบของสารบำรุงผิวต่างๆในปริมาณที่เข้มข้นกว่าเมื่อเทียบกับเนื้อครีม และเนื้อเจล จึงทำให้มีราคาแพงกว่า เซรั่มจะมีเนื้อที่บางเบากว่าทำให้สารบำรุงต่างๆ สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกถึงระดับโครงสร้างผิวได้ง่าย และทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนกว่า ในระยะเวลาที่เท่ากัน
• โลชั่น (Lotion) : มีส่วนผสมของน้ำมากกว่าน้ำมัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของเหลวหรือน้ำนม เหมาะสำหรับคนที่มีผิวผสม
ลำดับในการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจะเริ่มจากการทาผลิตภัณฑ์ที่ซึมง่ายกว่า ดังนี้
TONER -> SERUM -> GEL -> CREAM
เป็นที่กล่าวกันว่าในสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการบำรุงผิว คือ เซรั่ม (Serum)
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสกัดต่างๆเข้มข้นที่สุดในบรรดาเวชสำอางทั้งหมดค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหลายๆ อย่างร่วมกัน เราควรจะดูคุณสมบัติและส่วนผสมเป็นหลัก ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ มีคุณสมบัติหรือส่วนผสมเดียวกัน ก็ไม่ควรที่จะนำมาใช้ร่วมกัน เพราะจะเกิดการซ้ำซ้อน ถือเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และในขั้นตอนการใช้นั้น เราควรจะทิ้งระยะห่างในการทาประมาณ 5 - 10 นาที ก่อนจะทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าตัวต่อๆไป เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่เราทาก่อนหน้านั้นซึมลงสู่ผิวเสียก่อน
แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้เรา มีผิวนุ่มเนียน ขาวใส ปราศจากริ้วรอย นั่นคือ ความสม่ำเสมอ
และระยะเวลา หากเรามีความตั้งใจในการดูแลรักษาผิว ความสวยก็อยู่ไม่ไกลค่ะ^^
• เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพ
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในปริมาณที่เหมาะสม
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเป็นประจำและต่อเนื่อง